Wednesday, November 4, 2015

[เรื่องเสียวมากๆ] แม่ค้ามาลัย#1

แม่ค้ามาลัย#1
07
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีเรื่องเสียว ๆ ครับ มีอยู่เรื่องที่อยากที่จะมาร่วมสนุกด้วย มันเป็นเรื่องที่ต้องเก็บเอาไว้อยู่นานมากทีเดียวครับ
แต่มันก็ทนไม่ไหวครับที่จะเก็บเอาไว้คนเดียว เอาละครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมเริ่มเรื่องเลยนะครับ
เรื่องที่ผม จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงครับ ชื่อและสถานที่ผมต้องขอเก็บเอาไว้เป็นความลับก่อนนะครับเพื่อไม่ให้เป็นการ เสียหายแก่คนที่เกี่ยวข้อง
ผมชื่อ”ทิว”อายุ 23 ปีครับ ผมเดินทางเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ มาสมัครเป็นพนักงานขับรถอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง มันเป็นอาชีพที่พออยู่ได้ครับ
เงินเดือนดีมาก ก็มีหน้าที่ต้องขับรถตระเวนไปทั่วทั้งกรุงเทพฯ ส่งของที่นั้นที่นี่ เรื่องเสียว ๆ ที่ว่านี้มันก็เกิดขึ้นที่สี่แยกหนึ่งครับ
วันนั้นผมเอารถ ออกมาส่งของเมื่อตอนเย็น ส่งเสร็จกว่าจะกลับรถมันก็ติดเสียแล้วครับ มันเป็นเรื่องที่ธรรมดามากครับ ครั้งแรกก็รู้สึกไม่ดีเลย
แต่เมื่อนานเข้ามันก็เป็นเรื่องที่ชินเสียแล้วครับ ยังดีที่รถผมขับมันมีแอร์ก็สบายไปครับ ครั้งนั้นผมไปติดอยู่ที่ไฟแดงระหว่างที่ผมนั่งคิดอะไร
เพลินอยู่ก็ต้องสะดุ้ง สุดตัวเลยครับ ใครไม่รู้มาเคาะที่กระจกรถ ผมเห็นแค่หัวเท่านั้นเพราะรถที่ขับอยู่เป็นรถสูง ผมโมโหมากเปิดกระจกได้ก็ด่าเลยครับ
“กระจกรถนะโว้ย..ไม่ใช่กระจกที่บ้านมึง..อยาก..”
“พวงมาลัยไหมพี่..พวงละสิบบาทเท่านั้น..”
อ้าปากค้างเลยครับพูดอะไรไม่ออก สวยเหลือเกิน ผมทำอะไรไม่ถูกจ้องมองตาเธอเท่านั้น อายุต้องไม่เกิน 18 ปีแน่ ๆ
“เอาไหมคะ..สิบบาทเท่านั้น..”
“เอา..เอา..ครับ..”
“กี่พวงดีคะ..”
“สองพวงครับ..”
“ขอบคุณมากค่ะ..”
ผม ส่งเงินให้เธอแล้วก็รับพวงมาลัยมาวางเอาไว้ที่หน้ารถ ผมมองตามเธอจนกระทั่งเธอเดินลับหายไป สวยอะไรอย่างนี้ อย่างนี้ต้องมาซื้อทุกวันแล้ว
ผมพยายามมองหาเธออีกครั้งก็ไม่เจอเลยครับ จนกระทั่งรถออกจากไฟแดงจึงเห็นว่าเธอนั่งอยู่ที่ใต้ไฟแดงนั่นเอง อย่างนี้ต้องหาเรื่องมาที่นี่ทุกวัน
ถ้าไม่มาสงสัยว่าต้องอกแตกตายแน่ วันรุ่งขึ้นผมรับใบแจ้งงานมาอ่าน โชคดีเหลือเกินครับที่ได้กลับมาที่เก่าอีกครั้ง ผมเลือกที่จะส่งของแถวนั้นเป็นที่สุดท้าย
ผมขับรถมาติดที่นี่อีกครั้งพยายามมองหาเธอ นั่นไงเดินมาแล้ว
“พวงมาลัยไหมพี่..สอง..”
“สองพวงสิบบาทเท่านั้น..”
“อ้อ..พี่นะเอง..วันนี้เอาอีกหรือเปล่าคะ..”
“เอาสิครับ..เอา..”
“สองพวง..”
ผมหัวร่อลั่นเลยครับ เพราะเธอทันผมเหมือนกัน เราต่างคนก็ต่างยิ้มให้กัน อย่างนี้ก็สวยสิครับ รถก็ยังติดไฟแดงอยู่เลย
“เดี๋ยวก่อนครับ..ชื่ออะไรหรือครับ..ผมจะมาซื้อทุกวันเลย..”
“อ้อมค่ะ..จริงหรือเปล่าที่จะมาซื้อทุกวัน..อย่ามาหลอกกันนะคะ..”
“ไม่หรอกครับ..พรุ่งนี้จะมาใหม่..”
“ขอบคุณมากค่ะ..”
ผม ขับรถออกมาจากไฟแดงนั้นด้วยหัวใจที่พองโตเลยครับ เด็กอะไรก็ไม่รู้น่าอึ๊บเหลือเกิน น่ากินตั้งแต่หัวยันเท้า วันรุ่งขึ้นผมมาส่งของที่นี่อีกครั้ง
ตอนนั้นขากลับมันก็เย็นมากแล้ว กว่าที่จะออกมาจากที่ส่งของก็มืดพอดี ผมขับรถมาจนกระทั่งถึงไฟพยายามสอดสายตามองหาแต่ก็ไม่เห็น
ระหว่างที่ผม ขับอยู่เพลิน ๆ ช้า ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวตัดหน้า ผมหักพวงมาลัยออกทางขวามืออย่างกะทันหันแล้วร่างของอ้อมก็โผล่ออกมาพอดี
ผมเหยียบเบรคอย่างเร็วแต่มันก็ไม่ทันแล้วครับ เพราะผมชนร่างของอ้อมกระเด็นลงไปนอน ผมรีบกระโดดลงจากรถ
“อ้อม..อ้อม..เป็นไงมั่ง..”
“อูยยย..เจ็บ..ที่แขนค่ะ..”
“ไป..ไป..โรงพยาบาลกันดีกว่า..”
“ไม่..ไม่..เป็นไรมากหรอกค่ะ..แค่เจ็บนิดหน่อยเท่านั้น..”
“ไปเถอะน่า..ไปเร็ว..”
ผม ไม่ฟังเสียงอ้อม รีบอุ้มเธอลุกขึ้นแล้วเอามาที่รถ ขับออกไปอย่างเร็วไปส่งที่โรงพยาบาล มาถึงหมอก็จัดแจงทำแผลเรียบร้อย หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก นิดเดียวเท่านั้นที่แขน
“อ้อมบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไรมาก..”
“เอาเถอะน่า..ไป..เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน..”
“ค่ะ..”
ผม พาอ้อมมาส่งที่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านเช่า ห้องที่อ้อมอยู่เป็นห้องสุดท้าย แถวนั้นมันมีแค่ห้าห้องเท่านั้น ดูท่าทางมันก็เงียบดี ระหว่างที่เดินมาส่ง ก่อนที่จะถึงห้องของอ้อมมีห้องว่างอยู่หนึ่งห้องพอดี
“อ้อม..ห้องว่างหรือเปล่า..”
“อ้อ..ว่างจ้ะ..ยังไม่มีคนมาเช่าเลย..”
“เอาอย่างงี้นะ..นี่เงินพี่ให้อ้อมเอาไว้เป็นค่ารักษา..แล้วนี่เงินมัดจำห้อง..พรุ่งนี้อ้อมช่วยจัดการให้พี่ทีนะ..”
“พี่จะย้ายมาที่นี่หรือไง..”
“ใช่..ดีเลย..เพราะพี่ก็กำลังหาห้องเช่าอยู่พอดี..หามานานแล้ว..นี่พี่ก็นอนที่บริษัทมันอึดอัด..”
“ก็ได้พี่..เดี๋ยวอ้อมจัดการให้..”
“ไป..เดี๋ยวพี่ไปส่งในบ้านเลย..”
“อย่าดีกว่าพี่..เดี๋ยวป้าด่าเอา..ป้าแกเป็นคนโมโหร้ายพี่..ส่งแค่นี้ก็พอแล้ว..”
“แค่นี้ก็แค่นี้..พี่ไปนะพรุ่งนี้พี่จะมาใหม่..”
“แต่อย่าให้ป้ารู้นะพี่..เดี๋ยวซวย..”
“จ้ะ..”
เป็น โชคหรือเป็นเรื่องซวยผมไม่สนใจแล้วครับ เพราะหุ่นอย่างนี้มันน่าปล่อยให้เป็นของคนอื่นหรือไง กลับมาบริษัทผมก็จัดแจงเก็บข้าวของทันที
พอเช้าผมก็มาลาเจ้านายว่าหาบ้านเช่าได้แล้ว แล้วก็ออกมาทันที ผมมาที่ห้องเช่าเห็นว่าอ้อมรออยู่แล้วแต่อ้อมก็ทำท่าให้ผมเงียบ ๆ
แล้วก็เดินมากระซิบว่าเข้าอยู่ได้เลย เพราะเธอจัดการให้เรียบร้อยแล้ว ผมก็เอาของเข้าห้องแล้วออกมา อ้อมก็พาไปหาเจ้าของบ้าน
“เออ..มาอยู่ที่ นี่..ก็ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน..เพราะป้าของยายอ้อมโมโหร้าย..ใครมาวุ่นวาย กับหลานแกไม่ได้เลย..สงสัยเป็นเพราะไม่ยอมมีผัวแน่ ๆ ..ฮ่าาาาา..”
เจ้าของบ้านเป็นผู้ชายอายุมากแล้วดูท่าทางเป็นคนที่มีนิสัยสนุก ดูเป็นกันเองดีมากเลย ผมจ่ายเงินเสร็จก็เดินออกมาจากบ้านแก
“อ้อม..ป้าเธอดุอย่างนั้นจริง ๆ หรือเปล่า..”
” อ้อ..จริงจ้ะ..อย่างที่เขาว่านั่นแหละ อ้อมก็เบื่อเหลือเกิน..แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี..เพราะไม่ค่อยที่จะมีใคร มาคุยกับอ้อมเลย..เขากลัวกันหมด..”
“แล้วพี่ก็คงต้องเป็นเหมือนคนอื่นด้วยหรือเปล่า..”
“เรื่องอย่างนี้ก็ต้องแล้วแต่พี่สิ..ว่าใจถึงขนาดไหน..”
“แน่นอน..พี่ต้องกล้าแน่..เพราะ..”
“ไม่ต้องพูดแล้ว..ป้าอ้อมออกมานู้นแล้ว..เดี๋ยวพี่เดินเข้าบ้านไปก่อนนะ..ทำเป็นว่าเราไม่รู้จักกัน..”
ผม รีบผละออกจากอ้อมทันทีแล้วเดินเข้าห้องไป ระหว่างทางเดินก็เดินสวนกับป้าของอ้อม ผมสังเกตดูเป็นคนที่สวยอยู่เหมือนกัน อายุประมาณ 35 กว่าแน่นอน
รูปร่างยังแจ๋วอยู่เลย..ถูกใจผมจริง ๆ มันน่าฟันทั้งสองเหลือเกิน
แล้วเวลาก็ผ่านไปห้าวันแล้วผมยังไม่ได้คุยกับอ้อมเลยครับ ได้แต่มองหน้ากันเท่านั้น เพราะเจออ้อมทีไรก็เจอป้าทุกครั้ง
แล้วเรื่อง ซ่านหัวใจมันก็เกิดขึ้นครับ วันนั้นมันเป็นวันที่เงินเดือนออก ผมรับเงินมาแล้วขอลากลับบ้านเลยเพราะตัวเองก็ไม่สบายมาหลายวันแล้ว
ผมกลับมาที่ห้องประมาณเที่ยงเห็นห้องของอ้อมปิดประตูสงสัยว่าต้องออกไปข้าง นอกกันแน่ ๆ เข้าห้องก็เดินไปเดินมาไม่รู้จะเอายังไงดี
เพราะผมกับอ้อมมองหน้ากันอย่างเดียวเท่านั้น มองไปที่ข้างฝาห้องด้านที่อ้อมอยู่

No comments:

Post a Comment