สวัสดีครับ เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านพักนักศึกษาซึ่งเป็นห้อง แถว เล็กๆ ในต่างจังหวัด เรื่องราวและเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 43 ซึ่งขณะนั้นหมู่บ้านแห่งนี้ยังไม่มีการคมนาคมสะดวกเหมือนปัจจุบัน ไฟฟ้าในหมู่บ้านก็ยังไม่ค่อยสมบูรณ์นัก ชนิดหมาเยี่ยวรดเสาไฟ ไฟฟ้าก็ดับแล้ว และหมู่บ้านนี้ เริ่มเจริญขึ้นเมื่อมีวิทยาลัยจากในกรุงเทพฯย้ายออกมาตั้งขยายวิทยาเขตและ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งในตอนนั้นหอพักนักศึกษายังสร้างไม่เสร็จและไม่เพียงพอ จึงมีบรรดานักศึกษามาพักอาศัยอยู่ภายนอกในหมู่บ้าน ห้องพักในหมู่บ้านนี้อย่าเรียกว่าหอเลยดีกว่า แต่มันเป็นห้องแถวจริงๆ ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านที่มีที่ดินว่างๆ จะปลูกห้องแถวเพื่อให้คนงานที่มาสร้างวิทยาลัยแห่งนี้เช่าอยู่ เมื่อวิทยาลัยเริ่มเสร็จคนงานก็เริ่มน้อยลงและทยอยย้ายออกไป นักศึกษาที่มาหาห้องแถวอยู่จึงได้มาพักอาศัยแทน และผมก้อาศัยอยู่ในห้องแถวนี้ด้วย ผมเองพักอยู่ห้องกลางๆจากห้องพักที่มี ด้วยกันสิบห้อง ห้องแถวนี้มีคนอาศัยอยู่ไม่มากนัก ถัดไปทางซ้ายมือก็มีห้องคนในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่มาก่อนผมแล้วสามห้อง ว่างห้องนึง ส่วนขวามือนี่เป็นมุมอับหน่อยเพราะมีบ้านคน อยู่บังด้านหน้าของห้องแถบนี้ไว้ มีนักศึกษาผู้หญิงอาศัยอยู่กับเพื่อนอีกประมาณสองคน พวกเธอพักอยู่ห้องริมสุดเพราะฉะนั้นห้องเธอจะมีเนื้อที่ใช้สอยด้านข้างห้อง เพิ่มขึ้นมาด้วย ห้องแถวของผมนี้สะดวกสบายมากครับ ใครจะเข้าจะออกได้ตลอดเพราะไม่มีประตูกั้น เป็นทางถนนวิ่งเข้าตัวห้องแถวโดยตรง ส่วนด้านหลัง และด้านข้างจะเป็นสวน ป่ารกๆแต่ยังดีมีกำแพงปูน กั้นแต่ก็ไม่สูงมากนัก ผมพักอยู่ใหม่ได้ประมาณเดือนจึงเริ่มสังเกตว่าเพื่อนห้องแถวผู้หญิงของผม ห้องนี้ก็ไม่เลวนัก มีอยู่คนนึงเป็นผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง ชื่อ อูม เป็นคนสูงยาวเข่าดีเลยทีเดียวแหละ หน้าอกดูขนาดจากภายนอกก็ธรรมดานะ ที่ตูดนี่สิเป็นตูดเลย เพราะตูดเธอค่อนข้างใหญ่มาก กลมกลึงน่าจับเป็นที่สุด เวลาเดินทีก้นเธอจะกระเพื่อมอย่างเห็นได้ชัด เป็นที่แตะตาผู้ชายทุกคนที่พบเห็น ส่วนอีกคนชื่อ ไก่ ขาวสวย หมวย อึ๋มเลย คนนี้หน้าอกจะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญเธอขาวไปทั้งตัว ผมเองยังชอบที่จะแอบมองเรียวขาเธอยิ่งนัก ส่วนผู้หญิงอีกคนชื่อ นก ครับสูงยาวเข่าดีเช่นกัน ทั้งหมดก็เป็นคนต่างจังหวัดเหมือนผมแหละที่ต้องมาอาศัยพักอยู่ต่างถิ่น ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ตัวผมเองเข้ากับชาวบ้านได้ง่าย และก็ชอบนั่งกินเหล้าไปเรื่อยดังนั้นผมจึงสนิทกับคนในหมู่บ้านได้เร็ว เริ่มจากร้านค้าหน้าบ้านและไปร้านขายข้าว ร้านเหล้าจนรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน ผิดกับพวกผู้หญิงในห้องแถวของผม เธอจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หมกตัวอยู่ในห้อง พอเริ่มมีแฟน ต่างคนต่างก็ไม่ค่อยกลับห้องมานอน เท่าไหร่ มีแต่อูมที่กลับห้องมานอนเสมอๆ ซึ่งนานไปทำให้ผมเริ่มรู้ถึงภัยใกล้ตัวที่มีแฝงอยู่ในหมู่บ้านนี้ เริ่มแรกผมก็กลัวมากที่มาอยู่คนเดียว กลัวขโมยบ้าง ผีบ้าง นานไปๆก็ชิน จะรู้ก็แต่มีไอ้บ้าโรคจิตที่ชอบแอบมองสาวพักอยู่ตรงหน้าห้องแถว นี้เอง และจากจุดนี้ที่ทำให้ผมได้รู้เห็นถึงเรื่องเสียวๆที่เกิดขึ้น กับเพื่อนข้าง ห้องของผม อูมไงครับ เธอจะเป็นคนที่หุ่นค่อนข้างดีอย่างที่บอกแบบตูดเป็นตูด และเวลาไปเรียนทีเธอก็มักจะใส่เสื้อรัดๆ กระโปรงสั้นๆ หรือไม่ก็ผ่าลึกๆบ้าง ขี่มอเตอร์ไซด์ไปเรียน ผมชอบมองเวลาที่เธอขี่มอเตอร์ไซด์มาก เวลาลมพัดตีด้านหน้าเธอ นมจะขึ้นลูก อย่างเห็นได้ชัด บางทีก็เห็นกางเกงในแวบๆ แวมๆบ้าง ยิ่งบางวันตอนเย็นหน้าฝน เธอจะขี่รถฝ่าสายฝนกลับมายิ่งเห็นชัดเจนใหญ่ ชนิดเห็นถึงลวดลายของเสื้อชั้นใน ไซด์แบบ รุ่นชัดเจนเลยทีเดียวแหละ แล้วอย่างนี้จะไม่แตะตาไอ้โรคจิตแถวบ้านได้อย่างไรกันครับ ความเซ็กซี่ตรงการแต่งกายก็ เป็นที่เตะตาพอแล้ว แต่เวลาเธอซักผ้าสิครับ ถามคนแถวนั้นได้ คนสวน คนงาน หรือไอ้โรคจิต มักจะแอบปีนกำแพงบ้าง ต้นไม้บ้างแอบดูอูมนั่งซักผ้าในวันหยุดอย่างวันอาทิตย์ เธอจะนุ่งกระโจมอกบ้าง กางเกงนอนบางๆ ขาสั้นมาใส่ตอนนั่งซักผ้า ยิ่งเป็นกางเกงนอนนี่เวลาตากผ้าจะเห็นทะลุไปถึงหว่างขาเลย ยิ่งกางเกงในบางตัวที่สวมยิ่งเซ๊กซี่มากครับ บางตัวก็รัดก้นที่กลมกลึงของเธอ บางตัวก็ออกแนวซ่อนขอบกางเกงในแบบว่ารัดไปในง่ามก้น แม้แต่ยกทรงยังมีหลายแบบเลยครับ แบบธรรมดา แบบเกาะอก แบบสายรัดคาดคอ หรือแบบผูก เธอค่อนข้างจะแฟชั่นมากๆเลยครับ ทำไมถึงรู้เหรอ เพราะดธอต้องนำมันมาตากราวรวมน่ะสิ ที่นี้จึงรู้เลยแหละว่าเธอมีสมบัติอะไรบ้าง รวมทั้งของเพื่อนๆเธอด้วย ผมเริ่มรู้สึกว่าเธอมีความเซ็กซี่เมื่อวันนึงผมตื่นแต่เช้ามืดมาออกกำลังกาย หลังจากวิ่งกลับมาผมจะลัดเส้นทางข้างร้านค้าเข้ามาทางซอกห้องแถว ซึ่งจะผ่านช่องด้านห้องของอูมพอดี ขณะนั้นเวลาประมาณ 8 โมงเช้า คนสวนหลังบ้านที่รู้จักกันกวักมือ เรียกผม พร้อมบอกให้ผมค่อยๆ ย่องมา พร้อมกระซิบว่าดูของดี เราจึงแอบกันอยู่ในสวนหลังบ้านบนเชิงเนินไผ่ซึ่งถ้ายืน หัวจะสูงเลยกำแพงหลังบ้านพอดี พร้อมกับมีกอหญ้า ผักตำลึง ไม้เลื้อยต่างๆ บัง คนในห้องแถวจะไม่มีทางเห็นคนที่ซุ่มอยู่ในสวนได้เลย เป็นชัยภูมิที่ดีมากๆ หลังจากที่ผมไปยืนบนนั้นและไปหลังบ้าน ห้องอูม ภาพที่เห็นก็คือ อูมอยู่ในชุดผ้าถุง ดูเธอลนมากๆ คงเป็นเพราะว่าวันนั้นเธอมีเรียนเช้า และตื่นสาย เธอเลยรีบๆ แต่งตัว เธอออกมาทางประตูหลังบ้านและเลาะออกไปข้างบ้านหยิบชุดชั้นในที่ตากอยู่ข้าง บ้าน เธอเลือกๆดู คงจะตัวที่แห้ง พอหาได้ เธอหยิบเดินมาตรงข้างบ้าน มองไปทางหน้าบ้านไม่มีใคร เธอเลยถกผ้าถุงสวมตรงนั้นเลย คราวนี้แหละหัวใจผมแทบหยุดเต้นเพราะเธอมัวหันหลังให้เรา สวมกางเกงใน ผ้าถุงข้างหลังเธอจึงถลกขึ้นเต็มที่ เห็นก้นงอนๆ ของเธอเต็มสองตาเลยครับและกว่าจะจัดกางเกงในให้เข้าที่ เราก็ได้เห็นทรวดทรงตั้งแต่เอวถึงเรียวขาทั้งคู่อย่างชัดเจน เธอหุ่นนางแบบจริงๆเลยครับ ยังไม่หมดแค่นั้นหลังจากเธอใส่กางเกงในเสร็จเธอรีบเดินเข้าทางประตูหลังบ้าน แต่เธอยังไม่ปิดประตูหลังบ้านนะครับ แต่เธอปิดประตู หน้าต่างด้านหน้าไว้ กะว่าอาศัยแสงจากด้านหลังส่องด้วย ผมกับตานึกคนสวนจึงได้โอกาสส่องไปในห้องเธอต่อทางประตูหลังโล่งๆ ชนิดไม่มีอะไรบัง เพราะห้องแถวของพวกเรานี่ก็เป็นห้องโล่งๆอยู่แล้วครับ มีแค่กระดานตีกั้นด้านหน้าให้ดูเป็นห้องข้างใน ห้องน้ำอยู่ข้างหลังแค่นี้ก็เป็นห้องพักสบายๆ แล้วครับ มาถึงเรื่องของอูมต่อ เธอกำลังสาละวนกับการเลือกชุดชั้นในของเธอครับ ในที่สุดเธอก็หยิบเสื้อในสีขาวลายลูกไม้แบบดันทรงคือไม่มีสายคาดไหล่ทั้งสอง ข้างมาใส่แทน อูมสวมเสื้อในได้เรียบร้อยมากครับ ขนาดแอบดูแบบจะจะเธอยังไม่พลาดขนาดปล่อยสองเต้าให้เห็นอล่างฉ่างเลย แต่ช๊อตเด็ดก็มีให้เราเห็นครับ หลังจากอูมใส่เสื้อในเสร็จแล้ว เธอก็ถอดผ้าถุงออกแบบกองลงไปกับพื้นเลยแล้วก็โยนใส่ในตะกร้าอย่างนั้นเหลือ เพียงตัวเธอเปล่าๆที่มีเพียงกางเกงในสีขาวๆ รัดก้นงอนๆ เว้าลึกด้านข้าง กับยกทรงสีขาวลายลูกไม้ ที่รัดนมเธอให้ดันล้นออกทางด้านบน ดูแล้วเซ็กซี่มากเลยครับ เธอมัวแต่ยืนส่องกระจกดูหุ่นและรูปร่างของตัวเอง จัดชุดชั้นในหันซ้ายที ขวาที ตามองแต่กระจก ยิ่งตอนเธอหันหน้ามาทางพวกผมสิครับ บุญตาจริงๆ ผมกับตานึกมองตรงเป้าเธอแบบไม่คลาดสายตาเลย เพราะกางเกงในเธอมัดตรงจิ๋มเธอชนิดอูมนูนมาอย่างเห็นได้ชัด และกางเกงในเธอมันก็สีขาวแบบระบายอากาศเสียด้วยสิทำให้เห็นขนดำๆของเธอที่ ซ่อนอยู่ในกางเกงในชัดเจน ผมคิดในใจเลยว่า ทำไมเธอจึงชื่ออูม ตรงนั้นของเธอมันโหนกมันนูนขนาดนี้นี่เอง ตานึกผมนี่สิครับถึงกับหลุดปากอุทานออกมาจนผมได้ ยินเลย “โคกโคตรโหนกเลย อีหนูอูมเอ๊ย ขอตากระแทกซักทีเถอะน๊า ตายก็ไม่เสียดายชีวิตแล้วโว๊ย” อุทานได้สักพักแกก็เข่าอ่อนทรุดลงตรงนั้น ลำบากผมสิครับ ผมหัวใจจะวายเพราะของอูม ยังไม่ทันหาย ตานึกดันมาเป็นลมตอนนั้นอีก หน้าแกซีดไปหมด ผมกลัวแกจะหัวใจวายตายจริงๆ เลยอดดูต่อเลย เพราะต้องลากแกออกมาจากเนินไผ่แบบเงียบๆ จะโล่งอกก็ตอนที่แกเริ่มรู้สึกดีขึ้นน่ะแหละ เฮ้อ…โล่งอกผมซะที ถ้าแกหัวใจวายตายเพราะไปแอบดูนักศึกษาใส่เสื้อผ้านี่ ผมจะให้การกับตำรวจยังไงดีเนี่ย…ถ้าแกได้กระแทกของอูมอย่างที่แกว่า ผมว่าคงต้องต่อโลงรอได้เลย แค่นี้ก็เกือบจะแล้ว ตานึกเอ๊ย…. หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมเริ่มที่จะแอบดูเธออยู่เรื่อยๆ ประกอบกับเพื่อนอีกสองคนที่พักอยู่ด้วยกัน ย้ายออกไปอยู่อีกหอกับแฟน ทำให้ผมมีโอกาสมากขึ้น ที่จะไม่ต้องมาระแวงว่าใครจะมาตอนผมแอบดู ยิ่งตานึกนี่ ขยันเข้าสวนแต่เช้ามืด ค่ำๆก็สามสี่ทุ่มน่ะแหละกว่าจะกลับ งานนี้นี่มีคนเพิ่มอีกคนก็ไอ้โรคจิตหน้าบ้านแหละครับ มันนี่ตัวฉกาจเลย แต่บางทีกริยาของมันก็ทำให้ผมมีความรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆนะครับ ผมคิดที่อยากจะเห็นน้องอูม โดยแบบว่าลวนลาม ข่มขืนประมาณนั้น ผมว่ามันมีอารมณ์มากๆเลย และผมเองผมก็ไม่คิดที่อยากจะฟันเธอซะด้วย แต่อยากเห็นตอนเธอโดนคนอื่นฟันมากกว่า ผมอยากดูว่าเธอจะร้องหรือคราง หรือทำหน้าตายังไง จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้เดือนนึงเหตุการณ์ที่ส่อเค้าไปในทางที่ผมคิดก็เกิด ขึ้นครับ วันนั้นผมตื่นเช้าเพื่อออกกำลังกายเหมือนทุกวัน เจอตานึกนั่งอยู่บนเนินไผ่ฐานที่มั่นเดิม แต่ดูท่าทางแกก็คงจะเริ่มเบื่อเพราะแกบ่นว่าเฝ้ามาเดือนนึงยังไม่มีโอกาสได้ เห็นเหมือนวันที่ดูกับผมวันนั้นเลย วันนี้แกก็เรียกผมอีก แต่คราวนี้ไม่ใช่ดู อูมนะครับ แต่ดูพฤติกรรมของไอ้คนบ้า หน้าบ้านผม ผมเห็นไม่หิ้วฝักบัวรดน้ำ แล้วก็มารดกางเกงในชุดชั้นใน ที่ อูมตาก กระโปรงตัวยาวๆ กางเกงมันรดจนเปียกหมด แล้วมันก็หนีเข้าบ้าน ผมสงสัยมากเลยว่ามันทำอะไรของมัน จนกระทั่งสายๆ อูมตื่นขึ้นมา ผมก็พอจะเดาออกทันทีเลยครับ พร้อมหันไปบอกตานึก.” ไปตานึก วันนี้เราได้ดูอะไรดีๆ ยิ่งกว่าวันนั้นแน่ ” “อะไรของมึงวีะ ดีกว่าวันนั้น ไอ้บ้ามันทำอะไรของมันก็ไม่รู้”ตานึกบ่น “มันเอาน้ำมารดอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอ” ผมถาม “มันทำมาสองสามวันแล้ว ฉันยังได้ยินหนูอูมบ่นเลยว่าไม่มีชุดชั้นในจะใส่” “นั่นแหละ เจตนาของไอ้บ้ามัน”ผมบอก “อะไรของมันว๊ะ” ตานึกยังงง “ก็มันจะให้ยัยอูมนี่ ไม่ใส่อะไรไปเรียนไง ไม่เห็นเหรอมันเหลือแต่กระโปรงสั้นๆไว้ ที่ไม่รดน้ำ ” ผมบอก “อ้าว แล้วเกิดหนูอูมไม่ไปเรียนล่ะ หรือไปซื้อตัวใหม่มา เห็นมั้ยแต่งตัวมิดชิดกว่าเมื่อก่อนอีก ไม่มีอะไรให้เห็นเลย” ตานึกยังคงบ่น “วันอื่นฉันไม่รู้ แต่วันนี้เธอต้องไปเรียนเพราะวิทยาลัยมีงาน เธออยู่สาขาการโรงแรม วันนี้เธอต้องสวมสูทสั้นไป วันนี้ชุดโคตรเอ็กซ์เลยตานึก” ผมพูด “จริงป่าวว๊ะ เออดีๆๆๆไปแอบที่เดิมดีกว่า” ตานึกฉายแววของความดีใจ ทุกสิ่งเป็นไปตามผมคาด อูมตื่นมามัวสาละวนกับชุดชั้นที่ไม่มีใส่และเวลาก็ใกล้เข้ามาแล้วด้วย “ทำไม มันไม่แห้งว๊ะ ไม่มีนุ่งแล้วนะโว้ย” เสียงเธอบ่นในห้องพึมพำๆ สักพักผมเห็นเธอไปคุ้ยตะกร้าเก่าๆ จนในที่สุดเธอก็ได้กางเกงในและยกทรงสภาพเก่าๆ มาชุดนึงแน่นอนครับเธอคงต้องตัดสินใจแล้วล่ะ ในที่สุดเธอต้องสวมใส่กางเกงในตัวที่เธอเคยคิดจะทิ้งมันไปเรียน พร้อมยกทรงสีขาวดันทรงที่ยืดจนยานแล้ว เธอรัดมันจนแน่นแต่มันก็ยังหลวมอยู่ดี หลังจากเธอใส่ชุดชั้นในได้สักพัก เธอก็ต้องรีบถอดกางเกงในออก ด้วยท่าทีลนเอามากๆ พร้อมกับนั่งถ่างขาหันออกมาทางประตูหลังเพื่ออาศัยแสงสว่างส่องหาอะไรซัก อย่างที่บริเวณจิ๋มของเธอ สมใจอยากผมกับตานึกสิครับ เต็มๆสองตาเลยคราวนี้ ขนของอูมดกดำมากครับ มันมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลยจะระยะที่เรายืน ที่แท้อูมก็โดนมดแดงกัดที่จิ๋มเอาสิครับ กางเกงในหมกไว้ไม่รู้กี่วันแล้วเธอความหาบริเวฯขนเพชรเธอสักพักเธอก็กลับไป ห้อง แล้วเดินออกมาพร้อมถุงน่องสีเนื้อ วาบหวิวมากเลยครับเพราะอูมเธกำลังถกผ้าถุงสวมถุงน่องชนิดยาวถึงเอวคราวนี้ เราเห็นกันแบบตั้งแต่ปลายเท้ายาวถึงสะดือ แบบไม่มีผ้าปิดเลยครับ สะดือเธอสวยมาก มีหน้าท้องนิดๆขนเพชรที่ขึ้นรกดกดำ บริเวณโคกโหนกๆของเธอ ขาเรียวยาวสวย สีน้ำผึ้งเมื่อสวมถุงน่องแล้วรู้สึกว่ามันน่าดึงดูดเร้าใจมากเลยครับ ยิ่งมองตรงบริเวณหม้อของเธอจะเห็นถุงน่องคลุมรัดให้หม้อของเธอมันโหนกนูน อย่างเห็นได้ชัดจะมีก็แต่ขนเพชรที่แบนราบตามถุงน่องปกปิดบริเวณหลุมของเธอ ไว้ มันยั่วเย้าใจ ดึงดูดให้เราอยากเข้าไปจับส่วนนั้นของเธอขยำจริงๆครับ แล้วยิ่งสวมกระโปรงสีน้ำเงินสั้นเลยเข่ารัดรูป รองเท้าส้นสูงเสื้อสีขาว ชุดการโรงแรมนี่มันมีเสน่ห์จริงๆครับ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าเธอดูจะไม่แคร์กับการใส่กางเกงในเท่าไรหรอก เพราะว่าถึงเธอจะพลาดทำหวอออก ยังไงคนที่เห็นก็คิดว่าเธอใส่กางเกงในสีดำอยู่ดี ยกเว้นแต่จะมีใครไปถลกกระโปรงเธอขึ้นกลางแจ้งเท่านั้นแหละ ถึงจะได้เห็นว่าหม้อเป็นหม้อ ตูดเป็นตูด จริงๆ สำหรับของอูมคนนี้ งานกิจกรรมในวันนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จะมีก็แต่ผมและเพื่อนที่มองทรวดทรงของสาวๆ การโรงแรมอย่างไม่คลาดสายตา โดยเฉพาะสาวอูมที่มีเพียงผมเพียงคนเดียวที่รู้ว่าเธอไม่ได้ใส่กางเกงในมาใน วันนี้ พวกเพื่อนๆของผมเองก็จ้องอยู่เหมือนกัน ก็ได้แต่เม้าจนมันปาก “ดูน้องอูมสิ นมเป็นนม ตูดเป็นตูดเลยว่ะ” เพื่อนผมพูด “เออ..ดูตูดสิ ทำไมไม่เห็นขอบกางเกงในเลยว๊ะ ตูดแม่งงอนดีฉิบหาย ” ” น่าจับ ที่สุดเลย….” ต่างคนต่างก็เม้ากันไปเรื่อย เหตุการณ์วันนั้นผ่านไปด้วยดี จนกระทั่งงานเลิก ก็มีเห็นหวอสาววิทยาลัย คนอื่นๆ บ้างแวบๆแวมๆ พอหอมปากหอมคอ แต่ใจผมสิยังจำภาพเมื่อเช้าติดตาอยู่เลย จนกระทั่งตกเย็น ฝนตกลงมาอย่างหนัก บรรดาสาวก็วิ่งหลบฝนกันจ้าละหวั่น บางคนก็ฝ่าลมฝนกลับบ้าน รวมทั้งน้องอูมด้วยครับ เธอขี่มอเตอร์ไซด์ฝ่าฝนกลับบ้านเช่นกัน ผมก็เลยตัดสินใจขี่กลับด้วยเหมือนกัน พอขี่ไปทันเธอผมแกล้งเหลือบไปมอง เสื้อนักศึกษาสีขาวที่เปียกฝนสิครับ นมเธอขึ้นเป็นลูกเลย เห็นยกทรงแบบชัดเจน ที่สำคัญยังเห็นหัวนมของเธอโผล่ล้นออกมาจากเสื้อในแบบ ดันทรงอย่างชัดเจน เธอไม่เวลาปิดเสื้อหรอกครับเพราะมือนึงเธอต้องจับแฮนด์รถ อีกมือต้องคอยปิดหน้าเพื่อป้องกันเม็ดฝนที่สาดมาจะเข้าตาและเธอก็สนใจที่จะ มองผมด้วยครับ ตอนที่ผมค่อยๆแซงเธอ ผมคิดในใจว่าการใส่หมวกกันนอกชนิดมีกระจกปิดนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง ทัศนวิสัยการขับขี่ยอดเยี่ยมดีจริงๆ ขับขี่ปลอดภัย ได้เห็นอะไรดีๆ อีกต่างหาก หลังจากถึงห้องผมก็นอนพักได้พักนึง ตื่นมาอีกทีก็ประมาณสี่ทุ่มกว่า เลยออกไปหาอะไรกิน ก็ไปเจอพวกอูมและเพื่อนเธอนั่งกินเบียร์กันอยู่ที่ร้านค้าในตลาด ในใจผมกะว่าพวกเธอต้องไปเที่ยวกันต่อแน่ๆ และก็คงจะเมากลับมาตอนดึกๆ หลังจากผมกินข้าวเสร็จก็กลับห้อง พอดีเจอพวกตานึกนั่งกินเหล้าอยู่แถวบ้านกับเพื่อนๆแก แกก็เลยเรียกผมไปนั่งร่วมวงด้วย จนกระทั่งประมาณตีหนึ่ง ตานึกขอไปกินต่อที่ห้องผม ผมก็เลยจัดให้แกอีกหนึ่งชุดแล้วเรื่องที่เม้าก็ไม่พ้นเรื่องน้องอูมอีกจนได้ ผมเลยแกล้งบอกแกว่า อยากดูอะไรดีๆไหมล่ะ ผมเลยให้แกย้ายที่ไปนั่งซุ่มกินเงียบๆในสวน แกเลยไปเอามุ้ง พร้อมกับก่อไฟเพื่อไล่ยุงไปในตัวอยู่ที่จุดเดิมที่เราเคยนั่งซุ่ม เพราะผมเดาว่าอูมจะต้องกลับมาประมาณตีสองแน่ๆ แต่ถ้าไม่กลับมานั่นก็หมายความว่าผมประมาณการพลาดเรานั่งกินได้สักพักก็ได้ ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ของเธอ ผมกับตานึกคอยจ้องดูที่ห้องเธออย่างใจจดใจจ่อจนกระทั่งไฟในห้องเธอเปิด เราก็เริ่มมองเห็นอะไรภายในห้องเธอจากช่องลม เธอเมามาจริงครับ พอเปิดประตูห้องเธอก็ต้องมาที่ห้องน้ำข้างหลังทันที เธออ๊วกแตกทันทีครับ เสียงโอ้ค อ๊าค ๆ นานพอสมควรแล้วเธอก็โซซัดโซเซไปหน้าบ้านเพื่อเข็นรถมอเตอร์ไซด์มาเก็บข้าง ห้อง ก่อนที่จะเข้าไปในห้อง ซึ่งตอนนั้นประตูหน้าห้องเธอยังไม่ปิด มีแต่เพียงประตูมุ้งลวดที่ปิดไว้เท่านั้น ผมเห็นเธอเก็บจัดที่นอนสักพักเหมือนเธอจะน๊อค สักพักเธอก็ล้มตัวตึงอยู่ตรงหมอนเธอโดยที่ยังไม่ปิดประตูห้องเลย ไฟก็ยังไม่เปิด ชุดเธอก็ยังไม่เปลี่ยน เธอใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อรัดรูปสีดำนอนอยู่ ตอนนั้นผมคิดว่าเราก็จะได้เห็นอะไรเพียงแค่นั้น เราก็นั่งกินเหล้ากันต่อในสวนหลังบ้าน จนประมาณตีสามผมก็คิดว่าจะขอตัวกลับไปนอนแต่ตาก็เหลือบไปมองที่ห้องเธออีก และสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ผมเลยเรียกตานึกมาแอบดูด้วยทันที สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็คือ ไอ้บ้าที่อยู่ตรงหน้าบ้านเรานี่เองแหละ มันย่องเข้ามาในห้องเธอ พร้อมปิดประตูล็อคกลอนอย่างดี ตอนนั้นผมสองจิตสองใจ ใจนึงจะไปช่วยเธอดีหรือว่าใจนึงจะดูเหตุการณ์ต่อไปดี และมารร้ายก็ครอบงำจิตใจ เพราะผมเองก็อยากเห็นเธอโดนซ่ำอยู่เหมือนกัน ผมกับตานึกเลยดูต่อ ไอ้บ้านั่นมันกำลังลูลไล้ก้นอันงามงอนของเธอโดยที่ตอนนี้เธอไม่รู้สึกตัวเลย แม้แต่น้อย จากนั้นมันจับตัวเธอพลิกนอนหงายทันทีเพราะเธอนอนคว่ำหน้าฟุบอยู่ที่นอนของ เธอเอง มันเริ่มลงมือด้วยกการจับนมของเธอและลูบไล้ไปทั่วบริเวณตั้งแต่นมลงมาหน้า ท้องและเป้าของเธอ มันลงต่อด้วยการรูดซิปกางเกงและถอดออกอย่างง่ายดาย ภายใต้กางเกงเธอไม่มีกางเกงในสวมใส่อยู่เลย เผยให้เห็นขนอันดกดำอย่างชัดเจน จากนั้นมันก็ถอดเสื้อเธอออกอย่างง่ายดายดาย มันไม่รอช้า มับปลดกางเกงของมันออก เผยให้เห็นอาวุธที่แข็งโด่ของมัน ตานึกอุทานออกมา”ไอ้บ้านี่ เห็นมันบ้าๆ ควยแม่งใหญ่ฉิบหาย” ไอ้บ้าลงมือจับควยมันยัดใส่จิ๋มของอูมอย่างไม่รีรอและมันพยายามถ่างขาเธอออก แบบกว้างสุดๆ สงสัยว่าของมันจะเข้าไม่ได้ จนกระทั่งมันพยายามอัดเข้าไปจนมิดด้าม อูมเธอไม่รู้สึกตัวเลยครับ มันเริ่มเย่ออย่างเมามัน อีกสองมือก็บีบขยำเต้านมทั้งสองข้างของเธอ จนสักครู่มันก็ร้องครางออกมา เป็นอันว่าไอ้บ้ามันเสร็จไปหนึ่งยก มันถอนควยออกมาจากร่องกลีบของอูมได้สักพัก มันจับเธอนอนคว่ำหน้าอีกครั้ง คราวนี้มันปั่นควยมันจนแข็งแล้วก็จับเข้าไปที่รูตูดของเธอ เป็นไปอย่างที่ในใจผมคิด อูมเธอจะรู้ไหมเนี่ยว่าร่องสวรรค์และก้นอันงามงอนของเธอถูกไอ้บ้าโรคจิต ประจำหมู่บ้านเผด็จศึกซะแล้ว ไอ้บ้ามันเริ่มบรรเลงเพลงทวนของมันอีกครั้ง คราวนี้นานกว่าครั้งที่แล้วเพราะว่ามันคงจะแตกช้ากว่าครั้งก่อน มันกระแทกอย่างเมามันจนกระทั่งเสร็จ มันถอนควยออกมาและนอนพักลูบไล้เรือนร่างของเธอ บางครั้งมันก็จับตัวเธอพลิกหงายหน้าลูบไล้หน้าอก จับบีบนมบ้าง เอาปากดูดนมเธอทั้งสองเต้าบ้างอย่างสบายใจ บางทีมันก็เอานิ้วแหย่เข้าไปในร่องเสียวของเธอ จะเด็ดสุดก็ตอนที่มันจับขาเธอถ่างออกอีกครั้งเอามือทั้งสองลูบไล้ขนอันดกดำ จากนั้นเอามือแบะกลีบร่องออกและใช้ลิ้นเลียเอาหน้าเข้าซุกดมดูดอย่างเมามัน จากนั้นมันใช้ลิ้นเลียไปจนทั่วร่าง ตั้งแต่เรียวขามาถึงจิ๋มและลามไปเรื่อยๆ จนถึงนม และทั่วใบหน้าของเธอ มันละเลงซะจนทั่ว ตานึกบ่นออกมา “งานนี้กูไปขอต่อคิวไอ้บ้าดีกว่าโว๊ย…” ผมรีบห้ามแกทันที “จะบ้าเหรอตานึก เดี๋ยวแม่งตื่นมาก็งามหน้าหรอก ไปนอนในห้องขังแน่” “กูไม่สนแล้ว กูทนไม่ไหวแล้วโว๊ย…” ตานึกพูด “เอางี้ตานึก รอดูวันพรุ่งนี้ก่อน ถ้าเรื่องนี้มันไม่ดังขนาดถึงตำรวจและเธอเงียบ ครั้งหน้าผมไม่ห้ามลุงแน่เพราะงานนี้ไอ้บ้ามันต้องหาโอกาสอีกครั้งแน่ ตกลงไหม” ผมออกความคิดให้แก “แต่นี่มันโอกาสทองเลยนะโว้ย ครั้งหน้าจะเหมือนครั้งนี้หรือเปล่าว๊ะ” “เออน่า ไปตอนนี้เรื่องถึงตำรวจ ลุงรับคนเดียวเต็มๆ คนบ้าตำรวจเขาไม่สอบสวนแน่ ลุงสิจะโดนหนักและอีกอย่างเล่าไปใครจะเชื่อ ลุงโดน ฉันก็โดนด้วยข้อหาสมรู้ร่วมคิด ถ้ำมอง อนาจารอีก ฉันไม่เอาด้วยหรอก” ผมค้านแกเต็มที่ “เออๆๆ ก็ได้ว๊ะ กูหัวใจจะวายตายอยู่แล้ว” ตานึกบ่น “ดูต่อเถอะ เผื่อถ้ามันคิดจะทำอะไรอย่างเช่นฆ่าปิดปาก เราบุกเข้าตอนนี้ฮีโร่แน่ๆ และเผื่อเป็นอย่างนั้นจริงๆน้องอูมอาจจะมีใจให้ลุงกับฉันก็ได้นะเพราะอย่าง น้อยเราก็เห็นอะไรๆของเขาจนหมดแล้ว” “เออๆๆๆ” ตานึกคล้อยตามและแอบดูต่อไป คราวนี้ไอ้บ้ามันจับควยที่แข็งอีกครั้งบรรเลงเพลงทวนด้วยมือของมันมันนั่ง ทับบนตัวเธอแบบไม่กลัวว่าเธอจะตื่น จากนั้นมันก็จับควยที่แข้งของมันยัดเข้าไปในปากของเธอ ทั้งที่เธอหลับอยู่ ผมคิดว่ามันคงจะปล่อยน้ำของมันเข้าปากเธอแน่ งานนี้สูตรสำเร็จเลยครับมันเล่นครบทุกประตู ทุกรูเลยที่มีหลังจากนั้นมันก็ชักว่าวแล้วน้ำปล่อยรดไปทั่วตัวเธอ รวมทั้งใบหน้า ไม่รู้ว่ามันไปเอาน้ำมาจากไหนตั้งเยอะแยะมากมายขนาดนั้น น้องอูมของผมโดนลักหลับชนิดแบบครบสูตรเลยทีเดียวแหละ หลังจากมันทำเสร็จกิจมันก็จัดแจงรีบใส่เสื้อผ้าและรีบหนีไปจากห้องทันที พร้อมปิดประตูล็อคห้องให้เธออย่างดี ปล่อยให้เรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเธอนอนอ้าซ่าเปรอะเปื้อนน้ำกามอยู่อย่าง นั้น ผมเหลียวไปดูนาฬิกา ตีห้าครึ่ง ผมบอกให้ตานึกถอนตัวเก็บมุ้งทันที ปล่อยให้กองไฟครุกรุ่นอยู่อย่างนั้น พร้อมสั่งห้ามนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด และถ้าตำรวจมาถาม ก็ให้แกบอกว่าแกมาเผาขยะอย่างนี้เป็นประจำทุกตีห้า พร้อมขู่แกด้วยว่าหากแกเล่าเรื่องนี้เข้าหูตำรวจ เราทั้งคู่โดนข้อหามีเอี่ยวกับไอ้บ้าด้วยแน่ เพราะไอ้บ้าน่ะมันบ้าอยู่แล้ว แต่เราคนมีสติมาแอบดูแถมยังไม่ไปช่วยเธอและปล่อยให้เธอโดนอยู่อย่างนั้น งานนี้ไม่รอดแน่ ตานึกหน้าซีดเผือดทันที แกรีบเก็บข้าวของและรับปากอย่างดี ผมไปนอนกับตานึกด้วยเพราะอย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าไม่ได้กลับมาที่ห้อง อย่างน้อยถ้ามีตำรวจมาซักหรืออูมตื่นขึ้นมาจะได้ไม่พาดพิงถึงผม ผมกลับบ้านมาประมาณเที่ยงๆ เพราะตามไปหาปลาในนากับตานึก ตอนกลับมาที่มองไปที่ห้องอูม เห็นเธอนั่งตาแดงอยู่หน้าห้อง ผมรู้ทันทีเลยว่าเธอต้องนั่งร้องไห้มาตั้งแต่ตื่น แต่ผมไม่ได้ถามอะไรมาก แค่ยิ้มและพยักหน้าให้กับเธอตามปกติอย่างคนที่เคยเห็นกัน ในใจผมนึกสงสารเธอขึ้นมาอย่างจับใจและรู้สึกเสียใจมากที่ปล่อยให้เหตุการณ์ นี้เกิดขึ้นกับเธอ มันเหมือนตราบาปที่ประทับในใจผมตลอดมาจนทุกวันนี้ เรื่องนี้เงียบและผ่านไปด้วยดี เธอไม่ได้แจ้งความคงเป็นเพราะไม่รู้ว่าใครทำกับเธอและถ้าเธอรู้ เธอคงต้องฆ่าตัวตายแน่ๆ ผมจึงปล่อยให้มันผ่านไปแต่คอยสังเกตุดูเธออยู่ห่างๆกลัวว่าเธอจะคิดสั้น พอบ่ายๆ ผมเห็นเพื่อนเธอมารับเห็นบอกว่าไปโรงพยาบาล สงสัยว่าจะไปหายาคุมหรือปรึกษาแพทย์แน่ๆ แน่นอนแหละเธออาจเอาเรื่องนี้เล่าให้เพื่อนสนิทเธอฟัง และเพื่อนเธออาจตั้งข้อสงสัยมาที่ผมและคนแถวนั้นซึ่งผมก็ระวังปกปิดมาตลอด เป็นเวลา 3 ปีจนผมเรียนจบ มีรู้อยู่แค่ 3 คนคือผม ตานึก และไอ้บ้านั่นที่รู้ตัวเองดี เพื่อนสนิทเธอช่วงปีหลังเริ่มรู้จักกับพวกผมและเริ่มถามถึงกิจวัตรต่างๆ เธอคงจะยังสืบหาความจริงอยู่แต่ผมก็ทำอย่างที่เคยทำแต่ไม่เคยเข้าสวนหลัง บ้านอีกเลยหลังจากเหตุการณ์นั้น ยังคงยิงนกตกปลาไม่กลับมานอนห้องบ้างเหมือนทุกๆวันและยังพาเพื่อนๆไปด้วย ทำให้ทุกคนยืนยันความบริสุทธิ์ของผมได้เป็นอย่างดี ส่วนตานึกก็เลิกการถ้ำมองไปแบบขาดเลย เพราะผมขู่แกตลอดจนผมเรียนจบ ส่วนอูมหลังจากเหตุการณ์นั้น เดือนต่อมาเธอก็ย้ายออกจากห้องนั้น ซึ่งผมก็คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีกับเธอ มีก็แต่ตานึกที่คอยบ่นตัดท้อต่อว่าผมที่ห้ามแกไว้ในคืนนั้น จนอูมย้ายออกไปแล้วแกไม่มีโอกาสทองนั้นอีก จนผมขู่แกว่าตำรวจไปตรวจหารอยนิ้วมือของคนก่อไฟในสวนหลังบ้านในคืนนั้นและ สงสัยแก แกก็เลยหุบปากเงียบไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก จนกระทั่งแกตาย ความลับจึงเป็นความลับตลอดมาจนทุกวันนี้..
No comments:
Post a Comment